แผนกเภสัชกรรม

การออกแบบแผนกเภสัชกรรมในโรงพยาบาล

(Pharmacy Department in Hospital Design)

แผนกเภสัชกรรมเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของผู้ป่วย คุณภาพการให้บริการ และการควบคุมยาภายในโรงพยาบาล การออกแบบที่ดีจะต้องรองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูง และเป็นไปตามมาตรฐานสากล


1. โซนและพื้นที่ใช้งานหลัก

  • พื้นที่รับบริการและรอรับยา (Reception/Waiting Area):
    ตั้งอยู่บริเวณหน้าแผนก เข้าถึงง่าย มีที่นั่งเพียงพอสำหรับผู้ป่วยและญาติ พร้อมป้ายบอกชัดเจน (Firsthope, 2023)
  • เคาน์เตอร์จ่ายยา (Dispensing Counter):
    ควรแยกผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน และมีพื้นที่สำหรับการให้คำปรึกษาส่วนตัวเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย (PharmacyFreak, 2023)
  • พื้นที่จัดเก็บยา (Drug Storage):
    จำแนกเป็นหลายประเภท เช่น:
    • ห้องเก็บยาทั่วไป (ambient storage)
    • ห้องเย็นสำหรับยาควบคุมอุณหภูมิ
    • ห้องเก็บยาควบคุมพิเศษ เช่น ยาเสพติด
    • ห้องเก็บยาอันตราย เช่น ยาเคมีบำบัด (iHFG, 2023)
  • ห้องเตรียมยา (Compounding/Preparation Area):
    ใช้สำหรับผสมยาตามใบสั่งแพทย์ โดยต้องมีระบบระบายอากาศเฉพาะและมาตรการป้องกันความเสี่ยง (Firsthope, 2023)
  • พื้นที่ควบคุมคุณภาพ (Quality Control):
    ตรวจสอบคุณภาพยาก่อนจ่ายเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของผู้ป่วย
  • พื้นที่สำนักงานและเจ้าหน้าที่ (Administrative/Staff Areas):
    รวมถึงห้องพักเจ้าหน้าที่ ห้องประชุม และห้องน้ำ
  • พื้นที่ให้ข้อมูลยา (Drug Information Zone):
    สำหรับเภสัชกรใช้ค้นคว้าหรือให้ข้อมูลยาแก่แพทย์และผู้ป่วย
  • ระบบรักษาความปลอดภัย (Security):
    ห้องเก็บยาควบคุมต้องล็อกตลอดเวลา มีระบบกล้องวงจรปิดและจำกัดการเข้าถึงเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ได้รับอนุญาต

2. ข้อพิจารณาในการออกแบบ

  • ประสิทธิภาพของการทำงาน (Workflow Efficiency):
    การจัดวางพื้นที่ต้องเอื้อต่อการไหลเวียนของยา เอกสาร และคนงานแบบไม่ย้อนกลับ
  • ความสะดวกในการเข้าถึง (Accessibility):
    ควรตั้งอยู่ในชั้นล่าง หรือมีทางเข้าที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยทุพพลภาพ
  • การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน (Regulatory Compliance):
    ขนาดของพื้นที่ควรไม่น้อยกว่า 250 ตารางเมตรในโรงพยาบาลทั่วไป และมากกว่านี้ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่หรือโรงเรียนแพทย์
  • ความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย (Patient Privacy):
    มีห้องให้คำปรึกษาส่วนตัวเพื่อสอบถามหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยา
  • เทคโนโลยี (Technology Integration):
    ควรมีพื้นที่สำหรับระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจ่ายยาอัตโนมัติ

ตารางสรุปโซนการใช้งาน

พื้นที่ใช้งานจุดประสงค์หลัก
พื้นที่รับบริการ/รอรับยาเข้าถึงง่าย นั่งรอสะดวก มีป้ายบอกชัดเจน
เคาน์เตอร์จ่ายยาจ่ายยา แยกผู้ป่วยใน-นอก มีพื้นที่ปรึกษาเป็นส่วนตัว
พื้นที่จัดเก็บยาแบ่งตามประเภท ยาทั่วไป เย็น ควบคุม อันตราย
พื้นที่เตรียมยาผสมยา ปลอดภัย ระบบระบายอากาศดี
พื้นที่ควบคุมคุณภาพตรวจสอบความถูกต้องของยา
พื้นที่เจ้าหน้าที่ห้องพัก ห้องประชุม ห้องทำงาน
พื้นที่ให้ข้อมูลยาค้นคว้า/ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยหรือแพทย์
ระบบความปลอดภัยห้องเก็บยาล็อกตลอดเวลา ระบบกล้อง/การควบคุมการเข้าถึง

บทสรุป

แผนกเภสัชกรรมในโรงพยาบาลต้องออกแบบอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และประสบการณ์ของผู้ป่วย โดยเฉพาะในเรื่องการจัดเก็บยา การจ่ายยา การให้ข้อมูล และการควบคุมคุณภาพ—all in one functional, safe, and patient-centric environment.


เอกสารอ้างอิง (APA Style)

iHFG. (2023). 255 Pharmacy Unit – International Health Facility Guidelines. Retrieved from https://www.healthfacilityguidelines.com/ViewPDF/ViewIndexPDF/iHFG_part_b_pharmacy_unit
Firsthope. (2023). Layout & Staff Requirements in Hospital Pharmacy. Retrieved from https://www.firsthope.co.in/layout-staff-requirements-in-hospital-pharmacy
PharmacyFreak. (2023). Layout of Hospital Pharmacy. Retrieved from https://pharmacyfreak.com/layout-of-hospital-pharmacy/
LIMU. (2022). PHARMACY Layout Design – LIMU-DR Home. Retrieved from http://repository.limu.edu.ly/bitstream/handle/123456789/3541/Pharmacy%20layout%20_compressed.pdf
Pinterest. (2023). Pharmacy Layout Plan. Retrieved from https://www.pinterest.com/ideas/pharmacy-layout-plan/916755673502/


Comments

ใส่ความเห็น