เคยไหม…
- มีงานเต็มหัว แต่ไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อน
- หันไปมา แล้ววันก็หมดไปแบบไม่รู้ตัว
- มี To-Do List ยาวเหยียด แต่ทำจริงได้แค่ 2 งาน?
ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ด้วยการจัดตารางแบบ “Time Blocking” นี่แหละ!
วันนี้มาเล่าให้ฟังว่า
Time Blocking คืออะไร, ทำไมมันเวิร์ก และจะเริ่มใช้ยังไงให้ได้ผลจริงแบบเพื่อนสอนเพื่อนเลย!
Time Blocking คืออะไร? 🤔
Time Blocking = การแบ่งเวลาในแต่ละวันเป็น “บล็อกๆ” แล้วกำหนดว่าเวลานั้นจะทำงานอะไรเท่านั้น
พูดง่ายๆ คือ:
- เอาเวลาในวันของเรา “ล็อกไว้” สำหรับแต่ละงานชัดๆ
- แทนที่จะทำงานตามอารมณ์ → เรามี “ภารกิจ” ชัดๆ สำหรับทุกช่วงเวลา
ตัวอย่าง:
- 09.00-10.30 → ตอบอีเมลทั้งหมด
- 10.30-12.00 → เขียนบทความ
- 13.00-14.00 → ประชุมทีม
- 14.00-16.00 → ทำงานโฟกัส (Deep Work)
ทำไม Time Blocking ถึงเวิร์ก? 🎯
เหตุผล | เพราะว่า… |
---|---|
ลดการสลับงานไปมา (Context Switching) | สมองโฟกัสทีละอย่างเต็มที่ งานเสร็จไวขึ้น |
รู้ตัวตลอดเวลาว่าควรทำอะไร | ไม่เสียเวลาคิดวนว่าจะทำอะไรก่อนหลัง |
ช่วยกันตัวเองจาก “งานด่วน” ที่ไม่สำคัญ | ถ้าช่วงนี้คือ “เขียนบทความ” ก็จะไม่โดนดึงไปตอบไลน์ทั้งวัน |
จัดการพลังงานได้ดีขึ้น | ทำงานยากตอนเช้า งานเบาๆ ตอนบ่าย งานสรุปตอนเย็น |
วิธีเริ่มทำ Time Blocking แบบง่ายสุดๆ ✍️
- ลิสต์งานที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้ก่อนนอน
- เขียนลงมาทั้งหมด อย่าเพิ่งจัดลำดับ
- ประเมินงานแต่ละชิ้นว่าต้องใช้เวลาประมาณเท่าไหร่
- งานเขียนบทความ → 2 ชม.
- ตอบอีเมล → 1 ชม.
- เปิด Google Calendar (หรือสมุดจดก็ได้)
- แบ่งช่วงเวลาในแต่ละวันออกเป็นบล็อกๆ
- ล็อกเวลาลงไปแบบจริงจัง
- เหมือนนัดหมายกับตัวเอง → บล็อกเวลาให้ชัด เช่น 9.00–11.00 “เขียนบทความ”
- ตั้งใจทำตามบล็อกนั้น
- อย่าไปเปิดแอปอื่น อย่าหลุดโฟกัส
- มีเวลาสำหรับบล็อก “กันชน” (Buffer Time)
- เผื่อเกิดเรื่องด่วน เช่น 30 นาทีระหว่างบล็อกสำคัญแต่ละอัน
ตัวอย่าง Time Blocking แบบ 1 วัน 🎯
เวลา | งานที่ทำ |
---|---|
07.00–08.00 | ออกกำลังกาย |
08.00–09.00 | อ่านหนังสือ (Personal Development) |
09.00–10.30 | เขียนบทความ |
10.30–11.00 | พักเบรก+ทบทวนงาน |
11.00–12.00 | ตอบอีเมล + เคลียร์งานเล็กๆ |
13.00–14.30 | ประชุมงานโปรเจกต์ใหญ่ |
14.30–16.00 | ทำ Deep Work (คิดกลยุทธ์/งานวางแผน) |
16.00–16.30 | ตอบแชท เคลียร์โน้ตยิบย่อย |
16.30–17.00 | วางแผนพรุ่งนี้ |
Tip: จัดงานที่ต้องใช้สมาธิสูงๆ ไว้ตอนเช้าที่สมองยังสดที่สุดนะ!
เคล็ดลับเสริมให้งานสำเร็จแบบมือโปร ✨
- ใส่เวลาพักไว้ในตารางด้วย → ไม่ใช่ทำงานยาวๆ 6 ชม.จนหัวไหม้!
- ยืดหยุ่นได้ แต่ต้องไม่หายไป → ถ้างานเกินเวลา ย้ายบล็อกได้ แต่ต้องเคลียร์
- กันเวลาสำหรับ “ชีวิตส่วนตัว” ด้วย → เช่น ออกกำลังกาย, อ่านหนังสือ, เวลาส่วนตัว
ข้อควรระวัง 🛑
- อย่ายัดงานแน่นเกินไปทั้งวัน → เหนื่อยและพังได้
- อย่าลืมกันเวลาสำหรับงานด่วนที่โผล่มา
- ถ้าเพิ่งเริ่ม ทำแบบ “หลวมๆ” ก่อน แล้วค่อยปรับให้แน่นขึ้นตามสไตล์ตัวเอง
สรุปส่งท้าย 🎯
Time Blocking คือ “เคล็ดลับลับ” ที่ช่วยให้เราทำงานได้ไวขึ้น โฟกัสดีขึ้น และใช้พลังงานคุ้มค่าที่สุดในแต่ละวัน!
- รู้ว่าช่วงไหนควรทำอะไร
- ไม่ต้องเสียเวลาคิดวนซ้ำๆ
- ลดการโดนขัดจังหวะชีวิตแบบน่าเบื่อ
เริ่มลองทำสัก 3 วัน แล้วคุณจะรู้เลยว่า เวลาชีวิตตัวเองมีค่าขึ้นขนาดไหน! 🚀⏰