ลิฟต์ในโรงพยาบาล

ปลอดภัย เข้าถึงง่าย รองรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ

ลิฟต์ในโรงพยาบาลไม่ใช่แค่ทางขึ้น-ลง แต่เป็น “ทางผ่านแห่งการรักษา” ที่มีผลต่อทั้งผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ และระบบงานภายในทั้งหมด การออกแบบจึงต้องตอบโจทย์ทั้งด้านการเข้าถึง ความปลอดภัย การควบคุมการติดเชื้อ และความรวดเร็วในการเคลื่อนย้าย


1. ขนาดและความจุ (Capacity and Size)

  • ลิฟต์ผู้โดยสาร/ลิฟต์ขนส่งผู้ป่วยทั่วไป: รองรับน้ำหนัก 1,818–2,273 กก. (4,000–5,000 ปอนด์) ขนาดพื้นที่ภายใน 3.9–4.7 ตารางเมตร และความกว้างประตูไม่น้อยกว่า 1.2 เมตร
  • ลิฟต์สำหรับผู้ป่วยอ้วนหรือกรณีฉุกเฉิน (Bariatric/Trauma Elevators): ต้องรองรับน้ำหนัก 2,727–3,600 กก. และมีความกว้างประตูไม่น้อยกว่า 1.37 เมตร เพื่อรองรับเตียงผู้ป่วยและอุปกรณ์ฉุกเฉิน

(WBDG, 2017; VA CFM, 2022)


2. ความปลอดภัยและการเข้าถึง (Accessibility and Safety)

  • ประตูต้องสูงไม่น้อยกว่า 2.1 เมตร และกว้างไม่น้อยกว่า 1.2 เมตร พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ปุ่มควบคุมควรเป็นแบบสัมผัสพร้อมแสงสว่างและอักษรเบรลล์
  • พื้นต้องกันลื่น มีราวจับ และไฟส่องสว่างเพียงพอ
  • วัสดุภายในควรเป็นสแตนเลส พื้นยาง และทนต่อการใช้งานหนัก

(Dazen Elevator, n.d.; BIDMC, 2022)


3. การแยกประเภทการใช้งาน (Function and Zoning)

  • ต้องมีลิฟต์แยกเฉพาะสำหรับ
    • ขนส่งผู้ป่วย
    • บุคคลทั่วไป
    • วัสดุและของเสียทางการแพทย์
  • บริเวณโถงลิฟต์ของผู้ป่วยไม่ควรใช้ร่วมกับลิฟต์สาธารณะหรือลิฟต์ขนส่ง เพื่อควบคุมการติดเชื้อและความเป็นส่วนตัว

(VA CFM, 2022)


4. ประสิทธิภาพและเทคโนโลยี (Performance and Technology)

  • ควรมีระบบควบคุมล่วงหน้า (advanced hall call system) ระบบ override ฉุกเฉิน และการเชื่อมต่อกับระบบอาคารอัจฉริยะ (BMS)
  • ความเร็วของลิฟต์ควรเหมาะสมกับจำนวนชั้นและความเร่งด่วนในการดูแลผู้ป่วย
  • ห้องควบคุมลิฟต์ (machine room) ต้องมีระบบระบายอากาศที่ดีและอยู่ใกล้โถงลิฟต์

(Mitsubishi Elevator, 2016; VA CFM, 2022)


5. ตำแหน่งและระบบไหลเวียน (Placement and Circulation)

  • ควรอยู่ในจุดที่เดินถึงจากห้องผู้ป่วยภายในระยะไม่เกิน 76 เมตร
  • ลิฟต์ที่ใช้ร่วมกันควรจัดกลุ่มเป็น “bank” เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยมีโถงพักคอยกว้างไม่น้อยกว่า 3.7 เมตรสำหรับลิฟต์ผู้โดยสาร และ 4.3 เมตรสำหรับลิฟต์บริการ

(VA CFM, 2022)


สรุปตารางองค์ประกอบสำคัญของลิฟต์โรงพยาบาล

องค์ประกอบรายละเอียดมาตรฐาน
ความจุ1,125–3,600 กก. (2,500–8,000 ปอนด์)
ความกว้างประตู≥1.2 ม. (สูงสุดถึง 1.37 ม. สำหรับลิฟต์ฉุกเฉิน)
ความสูงประตู≥2.1 ม.
พื้นที่ภายใน3.9–6.9 ตร.ม.
วัสดุภายในสแตนเลส พื้นยาง กันรอย กันลื่น ทำความสะอาดง่าย
การเข้าถึงปุ่มสัมผัส อักษรเบรลล์ ระบบอัตโนมัติ
ระบบการใช้งานแยกตามประเภทผู้ใช้ (ผู้ป่วย/สาธารณะ/วัสดุ)
ตำแหน่งและโถงพักคอยใกล้ห้องผู้ป่วย จัดกลุ่มลิฟต์ มีพื้นที่โถงรอกว้างเพียงพอ

สรุป

ลิฟต์ในโรงพยาบาลไม่ใช่แค่การขนส่ง แต่คือส่วนหนึ่งของกระบวนการดูแลผู้ป่วยที่ “ต้องแม่นยำ ปลอดภัย และเข้าถึงง่าย” ทั้งในยามปกติและในสถานการณ์ฉุกเฉิน การออกแบบที่ดีจะช่วยลดเวลา เพิ่มความปลอดภัย และยกระดับคุณภาพบริการทางการแพทย์อย่างยั่งยืน


อ้างอิง (References – APA Style)

Beth Israel Deaconess Medical Center. (2022). Elevator finishes design guidelines [PDF]. Retrieved from https://www.bidmc.org/-/media/files/beth-israel-org/centers-and-departments/facilities/bidmc-elevator-guidelines-081122.pdf

Dazen Elevator. (n.d.). Hospital elevator: A comprehensive guide. Retrieved from https://dazenelevator.com/hospital-elevator-comprehensive-guide/

Mitsubishi Elevator. (2016). NEXIEZ hospital bed elevator [PDF]. Retrieved from https://www.mitsubishielevator.co.th/2016/upload/cms_file/1554360103_359.pdf

VA CFM (U.S. Department of Veterans Affairs – Office of Construction & Facilities Management). (2022). Elevator design manual [PDF]. Retrieved from https://www.cfm.va.gov/til/dManual/dmElev.pdf

WBDG (Whole Building Design Guide). (2017). Elevator design manual [PDF]. Retrieved from https://www.wbdg.org/FFC/VA/VADEMAN/ARCHIVES/dmelev_2017.pdf