การออกแบบแผนกรังสีวินิจฉัย

หลักการสำคัญและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด

แผนกรังสีวินิจฉัย (Radiology Department) ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการวินิจฉัยและประเมินผลทางคลินิกของโรงพยาบาล การออกแบบพื้นที่นี้ต้องผสานระหว่างประสิทธิภาพของเวิร์กโฟลว์ การควบคุมการติดเชื้อ ความปลอดภัยจากรังสี และความสะดวกสบายของผู้ป่วยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว


1. ที่ตั้งและการเชื่อมต่อกับแผนกสำคัญ

แผนกรังสีควรตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางของโรงพยาบาล มีเส้นทางตรงไปยังแผนกผู้ป่วยนอก ห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด และหอผู้ป่วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งต่อผู้ป่วยและลดเวลาในการรอคอย โดยปกติจะวางไว้ที่ชั้นล่างเพื่อควบคุมการป้องกันรังสีได้ง่ายและสะดวกต่อการเข้าถึง (Hospaccx, 2024)


2. การแบ่งโซนการใช้งาน (Functional Zoning)

การออกแบบควรแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซนหลัก:

  • โซนผู้ป่วย: ห้องรับรอง ห้องรอ พื้นที่เตรียมก่อน/หลังตรวจ ควรออกแบบให้สะดวก ผ่อนคลาย และมีความเป็นส่วนตัว
  • โซนตรวจวินิจฉัย: ห้องตรวจต่าง ๆ เช่น X-ray, CT, MRI, อัลตราซาวนด์ โดยจัดเรียงตามความถี่ในการใช้งานเพื่อความสะดวกในการเข้าถึง
  • โซนประมวลผล: ห้องรายงานผล ห้องเก็บฟิล์ม ห้องควบคุมคุณภาพ ควรตั้งอยู่ใกล้โซนตรวจเพื่อความต่อเนื่องของงาน
  • โซนบุคลากร: ห้องทำงาน ห้องพัก ห้องประชุม ควรแยกจากพื้นที่ปฏิบัติงานเพื่อลดการรบกวน
  • โซนจัดเก็บระยะยาว: พื้นที่จัดเก็บฟิล์มและข้อมูลเก่าที่ไม่ใช้งานบ่อย อาจอยู่ชั้นใต้ดินหรือชั้นที่แยกออกไป (Health Facility Guidelines, 2023)

3. การวางผังการไหลของผู้ป่วย (Patient Workflow)

ควรมีการจัดเส้นทางแบบทางเดียว (one-way flow) จากการเข้ารับบริการ → พื้นที่เตรียมตัว → ตรวจวินิจฉัย → ฟื้นตัว/รอผล → ออกจากแผนก เพื่อความชัดเจน ปลอดภัย และลดความแออัด โดยควรแยกเส้นทางของบุคลากรออกจากผู้ป่วยให้ชัดเจน (Crelio Health, 2023)


4. การควบคุมการติดเชื้อและความปลอดภัย

  • พื้นผิวทุกส่วนควรเป็นวัสดุที่ไม่ดูดซึมน้ำ ไม่มีรอยต่อ และทำความสะอาดง่าย
  • ติดตั้งจุดล้างมือและจุดวางอุปกรณ์ PPE ให้พร้อมใช้งาน
  • ระบบระบายอากาศต้องเหมาะสมกับแต่ละชนิดของห้องตรวจ โดยเฉพาะห้องที่มีความเสี่ยงสูง
  • ผนังห้องตรวจต้องบุด้วยวัสดุกันรังสี (เช่น แผ่นตะกั่ว) ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านรังสี (ScienceDirect, 2024; EKB Journal, 2024)

5. อุปกรณ์และพื้นที่สนับสนุน

  • ห้องตรวจแต่ละประเภทควรจัดเรียงแบบ Cluster เช่น MRI, CT, X-ray อยู่ใกล้กัน เพื่อใช้พื้นที่เปลี่ยนชุด ห้องเตรียมผู้ป่วย หรือห้องพักฟื้นร่วมกัน
  • ห้องควบคุมภาพและห้องรายงานผลควรอยู่ใกล้ห้องตรวจ และใช้ระบบ PACS เชื่อมโยงภาพกับระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (CCDcare, 2024)

6. การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

  • ใช้ระบบลงทะเบียนอัตโนมัติและการนัดหมายผ่านแอปพลิเคชันเพื่อลดเวลารอ
  • ระบบจัดเก็บภาพดิจิทัล (PACS) และ AI ช่วยในการวิเคราะห์ภาพถ่ายวินิจฉัยและเร่งกระบวนการรายงาน
  • ออกแบบพื้นที่ให้รองรับการขยายตัวและอัปเกรดเทคโนโลยีในอนาคต (Crelio Health, 2023)

ตารางสรุป

โซน/องค์ประกอบรายละเอียดที่สำคัญ
โซนผู้ป่วยห้องรอ, เตรียมตัว, ฟื้นตัว, เน้นความเป็นส่วนตัว
โซนวินิจฉัยห้องตรวจตามประเภท, จัดเรียงตามความถี่ใช้งาน
โซนประมวลผลห้องอ่านภาพ, รายงานผล, เก็บฟิล์ม
โซนบุคลากรห้องทำงาน, ห้องพัก, แยกจากพื้นที่ผู้ป่วย
โซนเก็บข้อมูลระยะยาวเก็บข้อมูลเก่า, ใช้ระบบดิจิทัลหรือคลังแยกต่างหาก
การควบคุมการติดเชื้อพื้นสะอาด, ระบบระบายอากาศ, PPE, วัสดุกันรังสี
เทคโนโลยีPACS, ระบบอัตโนมัติ, ระบบจัดคิว, ระบบ AI

สรุป

การออกแบบแผนกรังสีวินิจฉัยที่ดีควรให้ความสำคัญกับการไหลเวียนของงาน การควบคุมการติดเชื้อ ความปลอดภัย การใช้เทคโนโลยี และความสะดวกสบายของผู้ป่วยและบุคลากร เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ


อ้างอิง (รูปแบบ APA)

Hospaccx. (2024). Radiology department planning & design. Retrieved from https://hospaccxconsulting.com/radiology-department-planning-design-architecture/

Health Facility Guidelines. (2023). Part B – Medical Imaging Design Standards. Retrieved from https://www.healthfacilityguidelines.com/ViewPDF/ViewIndexPDF/iHFG_part_b_medical_imaging_general

ScienceDirect. (2024). Design considerations for diagnostic radiology department. Retrieved from https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/B9780443141331000033

EKB Journal. (2024). Essentials of infection prevention and control in radiology. Retrieved from https://sjyr.journals.ekb.eg/article_386044_59ed8b34bbaa2cd9272ba2a54b89afa8.pdf

Crelio Health. (2023). Radiology workflows: A brief guide to efficiency, accuracy, cost. Retrieved from https://blog.creliohealth.com/radiology-workflows-a-brief-guide-to-efficiency-accuracy-and-cost-effectiveness/