การออกแบบแผนกห้องปฏิบัติการ (Laboratory Department)

หลักการและแนวปฏิบัติที่ดี

แผนกห้องปฏิบัติการ (Laboratory Department) เป็นหัวใจสำคัญของระบบวินิจฉัยทางการแพทย์ที่ทันสมัย การออกแบบพื้นที่นี้ต้องผสมผสานความปลอดภัย ความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพการทำงาน และเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการทำงานที่หลากหลายและสอดคล้องกับมาตรฐานด้านชีวอนามัย


1. ประเมินความเสี่ยงและความต้องการ

ขั้นตอนแรกของการออกแบบคือการประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) และความต้องการใช้งาน (Needs Assessment) เพื่อกำหนดระดับความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosafety Level) พื้นที่ที่จำเป็น และลักษณะเฉพาะของงานวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการจะดำเนินการ เช่น งานด้านจุลชีววิทยา ชีวเคมี โลหิตวิทยา หรือเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (World Health Organization, 2020)


2. การแบ่งโซนและวางผังพื้นที่

ควรแบ่งพื้นที่แล็บออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่:

  • โซนสะอาด (Clean Zone): เช่น สำนักงาน ห้องพักเจ้าหน้าที่
  • โซนกันชน (Buffer Zone): พื้นที่จัดเก็บวัสดุ สิ่งของสะอาด
  • โซนปนเปื้อน (Contaminated Zone): พื้นที่ปฏิบัติงาน วิเคราะห์ตัวอย่าง ล้างอุปกรณ์ และทิ้งขยะชีวภาพ

เส้นทางการไหลของบุคลากร ตัวอย่าง ของเสีย และเวชภัณฑ์ควรถูกแยกอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการปนเปื้อน (Hou, 2024)


3. คุณลักษณะสำคัญของพื้นที่ทำงาน

  • โต๊ะทำงานและอุปกรณ์ควรออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ (Ergonomic Design) มีอ่างล้างมือ ถังขยะติดเชื้อ และอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ฝักบัวล้างตา
  • พื้นที่ต้องเพียงพอสำหรับการติดตั้งเครื่องมือในปัจจุบัน และรองรับการขยายในอนาคต
  • การเข้าถึงพื้นที่ต้องสะดวกสำหรับการล้างทำความสะอาดและซ่อมบำรุง (Columbia University, 2023)

4. ระบบควบคุมสิ่งแวดล้อม

  • ระบบระบายอากาศ (HVAC) ต้องมีความดันอากาศที่เหมาะสมกับระดับความปลอดภัยทางชีวภาพ และสามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้
  • แสงสว่างต้องเพียงพอ ปรับระดับได้ และไม่มีแสงจ้า
  • พื้นผิวต้องทำจากวัสดุไม่ดูดซึม ไม่มีรอยต่อ และทำความสะอาดง่าย (Stanford EHS, 2023)

5. การปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ด้วยเทคโนโลยี

  • ควรออกแบบให้รองรับระบบ LIS (Laboratory Information System) เพื่อบริหารจัดการตัวอย่าง การรายงานผล และการติดตามสถานะการทำงาน
  • ใช้ระบบอัตโนมัติ เช่น แขนกลหรือหุ่นยนต์ในการป้อนข้อมูลและแยกตัวอย่าง เพื่อลดความผิดพลาดจากมนุษย์
  • ห้องควรมีการวางผังและขั้นตอนการทำงานที่เป็นมาตรฐาน ลดการเคลื่อนไหวซ้ำซ้อนของเจ้าหน้าที่ (CrelioHealth, 2024; LabKey, 2024)

6. ความยืดหยุ่นและการเติบโตในอนาคต

พื้นที่ควรมีการออกแบบให้ “ขยายตัวได้” (Expandable) เช่น ใช้ผนังเคลื่อนย้ายได้ หรือมีพื้นที่สำรองไว้รองรับเครื่องมือใหม่ และการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี (QualityKonnect, 2024)


7. ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

ต้องเป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย เช่น การจัดการไฟฟ้า น้ำเสีย วัสดุไวไฟ ตลอดจนมาตรการป้องกันอัคคีภัย การติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง และแผนทางหนีไฟ (WHO, 2020)


ตารางสรุปองค์ประกอบการออกแบบ

หมวดหมู่รายละเอียดที่สำคัญ
การประเมินวิเคราะห์ความเสี่ยง ประเภทงาน ระดับความปลอดภัย และการขยายในอนาคต
การแบ่งโซนโซนสะอาด / กันชน / ปนเปื้อน แยกทางเดินอย่างชัดเจน
โต๊ะทำงานสรีระศาสตร์ ล้างมือได้ ปลอดภัย และสะดวกใช้งาน
ระบบสิ่งแวดล้อมHVAC, แสงสว่าง, พื้นผิวไม่ดูดซึม
เทคโนโลยีLIS, ระบบอัตโนมัติ, เวิร์กโฟลว์ที่มีประสิทธิภาพ
ความยืดหยุ่นรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี
ความปลอดภัย/กฎระเบียบการจัดการสารเคมี ขยะติดเชื้อ ไฟฟ้า และการดับเพลิง

สรุป

แผนกห้องปฏิบัติการที่มีการออกแบบอย่างดี จะช่วยส่งเสริมความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ประสิทธิภาพของงานวิเคราะห์ และคุณภาพของการวินิจฉัยโรค ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต


อ้างอิง (รูปแบบ APA)

World Health Organization. (2020). Laboratory design and maintenance. Retrieved from https://iris.who.int/bitstream/handle/10665/337960/9789240011397-eng.pdf

Hou, L. (2024). Design requirements and construction standards for medical laboratories. Retrieved from https://www.linkedin.com/pulse/design-requirements-construction-standards-medical-laboratories-hou

Columbia University. (2023). Laboratory design guideline. Retrieved from https://research.columbia.edu/sites/default/files/content/EHS/ProjectManagers/LaboratoryDesignGuideline2023.pdf

Stanford Environmental Health & Safety. (2023). Laboratory design considerations. Retrieved from https://ehs.stanford.edu/manual/laboratory-standard-design-guidelines/laboratory-design-considerations

QualityKonnect. (2024). Planning & designing of clinical laboratory. Retrieved from https://www.qualitykonnect.com/post/planning-designing-of-clinical-laboratory

CrelioHealth. (2024). Guide to streamline laboratory workflow. Retrieved from https://blog.creliohealth.com/guide-to-streamline-laboratory-workflow-for-optimized-performance/

LabKey. (2024). Rethinking lab workflow optimization. Retrieved from https://www.labkey.com/lab-workflow-optimization/