ตั้งค่า Finder บน Mac แบบมืออาชีพ

คู่มือการตั้งค่า Finder บน Mac แบบมืออาชีพ


1. ทำความรู้จักกับ Finder

Finder คือเครื่องมือหลักสำหรับจัดการไฟล์ โฟลเดอร์ และเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกบน Mac (เหมือน Windows Explorer ใน Windows)

องค์ประกอบสำคัญของ Finder

  • Sidebar (แถบด้านซ้าย): ลิงก์ไปยังโฟลเดอร์หลัก, External Drive, iCloud, Network
  • Toolbar ด้านบน: มีปุ่ม View, แชร์, Action, Tag ฯลฯ
  • View Mode: มี 4 แบบ – Icon, List, Column, Gallery

2. ตั้งค่าเริ่มต้นให้ใช้งานง่ายขึ้น

2.1 เปิดโฟลเดอร์ Home โดยอัตโนมัติ

  1. เปิด Finder
  2. ไปที่เมนู Finder > Settings (หรือ Preferences) → แท็บ General
  3. ในช่อง New Finder windows show: เลือก “Home” หรือโฟลเดอร์ที่ใช้งานบ่อย

2.2 เปิดการแสดง Drive, External Disk และ Server บน Desktop

  1. ใน Finder > Settings > General
  2. เลือกติ๊กเครื่องหมายถูก:
    • Hard disks
    • External disks
    • CDs, DVDs, iPods
    • Connected servers

2.3 ตั้งค่ารูปแบบการแสดงผลเริ่มต้น

  1. เปิดโฟลเดอร์ใดก็ได้
  2. กด Command + J เพื่อเปิด View Options
  3. เลือก:
    • View as: Icon / List / Column / Gallery
    • Sort by: Name, Kind, Date Modified ฯลฯ
    • แสดงขนาดไฟล์ / ความละเอียดรูป
  4. ติ๊ก “Always open in” และ “Browse in”
  5. คลิก Use as Defaults เพื่อใช้กับโฟลเดอร์อื่นด้วย

3. ปรับ Sidebar ให้มีเฉพาะสิ่งที่คุณใช้จริง

3.1 แก้ไข Sidebar

  1. ไปที่ Finder > Settings > Sidebar
  2. เลือกเปิด/ปิดสิ่งที่ไม่ต้องใช้ เช่น AirDrop, Recent, Tags, iCloud Drive ฯลฯ

3.2 เพิ่มโฟลเดอร์ของคุณเอง

  • ลากโฟลเดอร์ที่ใช้บ่อยจากหน้าต่าง Finder มาวางที่แถบด้านซ้าย (Sidebar)

4. ใช้ Tag และ Label เพื่อจัดหมวดหมู่ไฟล์

4.1 ใส่สีให้กับไฟล์

  • คลิกขวาที่ไฟล์ > เลือก “Tag” > สีที่ต้องการ (เช่น สีแดง = ด่วน, สีน้ำเงิน = วิทยานิพนธ์)

4.2 เปลี่ยนชื่อ Tag

  • ไปที่ Finder > Settings > Tags
  • คลิกขวาที่สี > Rename เป็นชื่อที่สื่อความหมาย เช่น “งานวิจัย”, “ส่งแล้ว”, “รอตรวจ”

5. ใช้ Smart Folder เพื่อคัดกรองอัตโนมัติ

5.1 สร้าง Smart Folder

  1. ไปที่ File > New Smart Folder
  2. กำหนดเงื่อนไข เช่น:
    • ชื่อไฟล์มีคำว่า “บทที่”
    • ชนิดไฟล์เป็น .pdf
    • วันที่แก้ไขใน 7 วันที่ผ่านมา
  3. คลิก Save แล้วติ๊ก “Add to Sidebar”

6. เปิดแสดงไฟล์ที่ซ่อนอยู่ (Hidden Files)

ใช้คำสั่งลัด

bashคัดลอกแก้ไขCommand + Shift + . (ปุ่มจุด)

จะเปิด/ปิดการแสดงไฟล์ที่ซ่อนอยู่ทันที เช่น .DS_Store หรือโฟลเดอร์ระบบ


7. ใช้ Quick Look และ Preview อย่างโปร

ฟีเจอร์วิธีใช้
Quick Lookเลือกไฟล์ แล้วกด Space เพื่อดูทันที
Scroll / อ่าน PDF / วิดีโอใช้ Quick Look อ่านเอกสาร/ดูวิดีโอโดยไม่ต้องเปิดแอป
หมุนภาพ / เซ็นชื่อใช้ปุ่ม Markup เพื่อแก้ไขเบื้องต้นได้เลย

8. ใช้คำสั่งลัด Finder ให้คล่อง

การทำงานคำสั่ง
เปิดหน้าต่าง Finder ใหม่Command + N
เปลี่ยนโหมดแสดงผลCommand + 1 / 2 / 3 / 4
ย้ายไฟล์Command + Drag
คัดลอกไฟล์Option + Drag
เปิดข้อมูลไฟล์Command + I
สั่งเปิดด้วยแอปอื่นคลิกขวา > Open With

9. เพิ่มประสิทธิภาพด้วยแอปเสริม (ขั้นสูง)

แอปจุดเด่นลิงก์
Path FinderFinder ที่ทรงพลังขึ้นมาก มี 2-pane, Git, Terminal ในตัวhttps://cocoatech.com/
ForkLiftตัวจัดการไฟล์แบบคู่ รองรับ FTP, SFTPhttps://binarynights.com/forklift/
Commander Oneแบบสองช่อง คล้าย Total Commander บน Windowshttps://mac.eltima.com/commander-one.html

10. สรุป: ตั้งค่า Finder แบบมืออาชีพแล้วได้อะไร?

  • ทำงานได้เร็วขึ้น เพราะเข้าถึงไฟล์/โฟลเดอร์ที่ต้องใช้บ่อย
  • จัดระบบข้อมูลได้ดีขึ้น ด้วย Tag และ Smart Folder
  • ลดความยุ่งเหยิง ใน Sidebar และ View
  • ทำงานเหมือนโปร ด้วย Quick Look, คำสั่งลัด และ View Options

ที่มา