การออกแบบแผนกห้องคลอด (Labour Room Department)

องค์ประกอบสำคัญที่ควรรู้

เพราะการคลอดคือช่วงเวลาสำคัญที่สุดของชีวิต การออกแบบพื้นที่ต้องรองรับทั้งความปลอดภัย ความสะอาด และความอบอุ่นใจ

การออกแบบแผนกห้องคลอด (Labour Room Department) มีเป้าหมายเพื่อให้แม่และทารกได้รับการดูแลที่ปลอดภัย สะอาด และมีความเป็นส่วนตัว โดยยังต้องคำนึงถึงความสะดวกของบุคลากรทางการแพทย์ในการเข้าถึงอุปกรณ์และจัดการกรณีฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว


1. การแบ่งโซนและผังพื้นที่ (Zoning and Layout)

  • ห้องคลอดควรถูกแยกจากโซนอื่นของโรงพยาบาล เช่น โซนผู้ป่วยนอก หรือห้องผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและความวุ่นวาย
  • ทางเดินไปยังห้องคลอดควรกว้างไม่ต่ำกว่า 2.1 เมตร เพื่อให้เตียงและอุปกรณ์เคลื่อนย้ายได้สะดวก

(Ministry of Health Malaysia, 2016; Astron Healthcare, n.d.)


2. ขนาดห้องและสภาพแวดล้อม (Room Size and Environment)

  • ขนาดห้องคลอดควรมีพื้นที่อย่างน้อย 17 ตารางเมตร ความกว้างไม่ต่ำกว่า 3.7 เมตร และเพดานสูงมากกว่า 2.7 เมตร
  • ควรมีหน้าต่างหรือแหล่งแสงธรรมชาติ และระบบระบายอากาศที่ดีโดยปล่อยอากาศจากด้านบน
  • ออกแบบให้ลดเสียงรบกวน เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

(Ministry of Health Malaysia, 2016; Astron Healthcare, n.d.; Jomtien Hospital, n.d.)


3. การควบคุมการติดเชื้อ (Infection Control)

  • พื้นและผนังควรเรียบ ไร้รอยต่อ ไม่ลื่น ทำความสะอาดง่าย และ ห้ามใช้พรม
  • มีจุดล้างมือหรืออ่างล้างมือในทุกห้องคลอด
  • แยกพื้นที่จัดเก็บเวชภัณฑ์สะอาดออกจากของใช้แล้ว พร้อมแนวทางจัดการของเสียชัดเจน
  • ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ (เช่น สารละลายคลอรีน) หลังการคลอดทุกครั้ง

(Ministry of Health Malaysia, 2016; University of Baghdad, 2019; WHO, 2015)


4. อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก (Equipment and Facilities)

  • ห้องคลอดต้องมีเตียงคลอด (Obstetric Bed), ระบบจ่ายก๊าซทางการแพทย์ (Medical Gas), เครื่องทำความร้อนทารกแรกเกิด (Radiant Warmer), เครื่องดูดของเหลว และชุดฟื้นคืนชีพสำหรับแม่และทารก
  • มีพื้นที่เฉพาะสำหรับดูแลทารกแรกเกิด (Neonatal Island) อยู่ในห้องหรือใกล้ห้องคลอด
  • ระบบไฟฟ้าสำรองสำหรับอุปกรณ์สำคัญ

(Ministry of Health Malaysia, 2016; Astron Healthcare, n.d.)


5. ความสะดวกสบายและการสนับสนุนจิตใจ (Comfort and Support)

  • ห้องคลอดควรมีบรรยากาศคล้ายห้องพักผู้ป่วยทั่วไป มีแสงธรรมชาติ ควบคุมอุณหภูมิ และมีห้องน้ำภายใน
  • ควรมีพื้นที่รอสำหรับญาติ หรืออนุญาตให้มีผู้ร่วมคลอดอยู่ภายในห้อง
  • ใช้ม่านหรือฉากกั้นเพื่อให้ความเป็นส่วนตัว

(Astron Healthcare, n.d.; Ministry of Health Malaysia, 2016)


6. ความปลอดภัยและการเข้าถึง (Safety and Accessibility)

  • ประตูควรกว้างไม่ต่ำกว่า 1.2 เมตร และเปิดเข้าด้านใน
  • มีปุ่มเรียกพยาบาลที่สามารถใช้งานได้จากเตียงผู้ป่วย
  • มีปลั๊กไฟจำนวนมากและติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์

(Ministry of Health Malaysia, 2016)


สรุปตารางองค์ประกอบหลัก

องค์ประกอบรายละเอียดหลัก
การแบ่งโซนแยกจากโซนผ่าตัด/ผู้ป่วยนอก, ทางเดินตรงเข้าห้องคลอด
ขนาดและสภาพแวดล้อม≥17 ตร.ม., เพดาน >2.7 ม., มีแสงธรรมชาติและระบบระบายอากาศ
การควบคุมการติดเชื้อผิวเรียบไม่ลื่น, อ่างล้างมือ, การจัดเก็บเวชภัณฑ์แยกส่วน
อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกเตียงคลอด, เครื่องช่วยหายใจ, Neonatal Island, ระบบสำรองไฟฟ้า
ความสบายและการดูแลจิตใจห้องน้ำในตัว, ที่ว่างสำหรับญาติ, ฉากกั้นให้ความเป็นส่วนตัว
ความปลอดภัยและการเข้าถึงประตูกว้าง ≥1.2 ม., ปุ่มเรียก, ปลั๊กไฟเพียงพอ

สรุป

ห้องคลอดที่ดี ไม่ได้เน้นแค่เครื่องมือครบ แต่ต้องออกแบบอย่างรอบด้านเพื่อมอบความรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว
ทั้งแม่ ทารก และทีมแพทย์ต่างต้องการพื้นที่ที่เอื้อต่อความเป็นมนุษย์มากพอ ๆ กับความเป็นวิชาชีพ


รายการอ้างอิง (References – APA Style)

Astron Healthcare. (n.d.). How to incorporate birthing block in a hospital building plan?. Retrieved from https://www.astronhealthcare.com/blog/how-to-incorporate-birthing-block-in-a-hospital-building-plan/

Ministry of Health Malaysia. (2016). Labour Room [PDF]. Retrieved from https://hq.moh.gov.my/medicalprac/wp-content/uploads/2022/01/11Labour-room_Oct-2016.pdf

University of Baghdad. (2019). Infection control in operation and delivery room [PDF]. Retrieved from https://conursing.uobaghdad.edu.iq/wp-content/uploads/sites/20/2019/12/Infection-Control-In-Operation-And-Delivery-Room.pdf

World Health Organization (WHO). (2015). Labor and delivery protocol [PDF]. Retrieved from https://platform.who.int/docs/default-source/mca-documents/policy-documents/operational-guidance/LBR-CC-10-01-OPERATIONALGUIDANCE-2015-eng-Labor-and-Delivery-Protocol.pdf