การออกแบบแผนกทันตกรรม

หลักการออกแบบแผนกทันตกรรมในโรงพยาบาล

Dental Department Design: Key Elements and Best Practices

การออกแบบแผนกทันตกรรมในโรงพยาบาลสมัยใหม่ไม่ใช่แค่เรื่องของพื้นที่รักษาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ป่วย ความปลอดภัย การควบคุมการติดเชื้อ และประสิทธิภาพของการทำงานของบุคลากรไปพร้อมกัน


1. การแบ่งพื้นที่การใช้งาน (Zoning)

  • โถงต้อนรับและพื้นที่รอ
    ออกแบบให้เป็นมิตร เข้าถึงง่าย มีพื้นที่สำหรับเด็ก เช่น อ่างล้างมือและกระจกที่ระดับสายตาเด็ก รวมถึงระบบการเดินทางที่ชัดเจนและสะดวก (Dental Clinic Design Guide, 2023)
  • ห้องตรวจและรักษาทันตกรรม (Dental Treatment Rooms – DTRs)
    ห้องละ 11–12 ตร.ม. รองรับทั้งทันตแพทย์และผู้ช่วย ใช้ฉากหรือผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว และออกแบบให้เคลื่อนย้ายอุปกรณ์และดูแลผู้ป่วยได้สะดวก (WBDG, 2013; International Health Facility Guidelines, 2024)
  • ห้องเอกซเรย์และวินิจฉัย
    รวมถึงการเอกซเรย์ฟิล์ม ภาพพาโนรามา และ 3 มิติ โดยมีพื้นที่เพียงพอกับภาระงานและอุปกรณ์แต่ละชนิด (Dental Surgery Unit, 2024)
  • ห้องผ่าตัดและพักฟื้น
    สำหรับการรักษาที่ซับซ้อน เช่น การถอนฟันแบบศัลยกรรม หรือการปลูกฟันเทียม ต้องมีห้อง Scrub และ Recovery Room อยู่ใกล้เคียง (WBDG, 2013)
  • พื้นที่สนับสนุนอื่น ๆ
    เช่น ห้องเก็บเครื่องมือสะอาด ห้อง Utility (สะอาด/สกปรก) พื้นที่จัดเก็บพิมพ์ฟัน ห้องพักบุคลากร และสำนักงาน (CFM Dental Guide, 2022)

2. การควบคุมการติดเชื้อและความปลอดภัย

  • มีอ่างล้างมือในทุกพื้นที่ตรวจและสนับสนุน
  • ใช้วัสดุปูพื้น ผนัง และเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีรอยต่อ ทำความสะอาดง่าย
  • มีระบบระบายอากาศที่ดี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ทำหัตถการที่มีละอองฟุ้งกระจาย
  • แยกเส้นทางของผู้ป่วย บุคลากร และวัสดุสิ่งของ เพื่อลดการปนเปื้อน (Benco, 2020; UNDP, 2022)

3. ความสะดวกและประสบการณ์ของผู้ป่วย

  • ใช้แนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) เช่น ทางลาด ห้องน้ำผู้พิการ และเก้าอี้รอหลากหลายรูปแบบ
  • ให้แสงธรรมชาติ สีโทนอ่อน และสิ่งแวดล้อมที่ผ่อนคลายเพื่อลดความกลัวของผู้ป่วย
  • เสียงรบกวนต่ำ และมีฉากกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวในขณะรักษา (XO CARE, 2023; UNDP, 2022)

4. ความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพ

  • การออกแบบห้องในขนาดมาตรฐาน และผังโมดูลาร์ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามอนาคต
  • ศูนย์กลางเครื่องนึ่ง การจัดเก็บ และห้องพักบุคลากรควรอยู่ในจุดที่ใช้งานร่วมกันได้เพื่อลดความซ้ำซ้อน
  • มีระบบไอทีรองรับการบันทึกข้อมูลทันตกรรม (EHR) และทันตกรรมทางไกล (Teledentistry) (WBDG, 2013; Health Facility Guidelines India, 2024)

สรุปตาราง

พื้นที่/องค์ประกอบคุณลักษณะเด่น
โถงต้อนรับ/พื้นที่รอเข้าถึงง่าย มีพื้นที่เด็กและระบบแนะนำผู้ป่วย
ห้องตรวจ/รักษา (DTRs)ขนาดมาตรฐาน มีความเป็นส่วนตัว รองรับผู้ช่วยหลายคน
ห้องภาพ/เอกซเรย์พื้นที่เฉพาะตามเครื่องมือแต่ละชนิด
ห้องผ่าตัด/พักฟื้นมีห้อง Scrub, Recovery, อุปกรณ์ช่วยฟื้นตัวครบถ้วน
พื้นที่สนับสนุนแยกห้อง Utility, ห้องเก็บพิมพ์ฟัน, ห้องพักเจ้าหน้าที่
ควบคุมการติดเชื้ออ่างล้างมือ, วัสดุไม่มีรอยต่อ, การระบายอากาศที่ดี
ความสะดวก/ประสบการณ์ผู้ป่วยแสงธรรมชาติ สีสงบ สุขภาวะเสียงดี มี Universal Design
ความยืดหยุ่นและเทคโนโลยีโมดูลาร์ แชร์พื้นที่สนับสนุน ระบบไอทีทันตกรรม

สรุป

การออกแบบแผนกทันตกรรมในโรงพยาบาลต้องผสานระหว่างการดูแลสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพสูง การป้องกันการติดเชื้อ ความสะดวกสบายของผู้ป่วย และประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร โดยมีความยืดหยุ่นและรองรับการเติบโตในอนาคตอย่างมั่นคง


อ้างอิง (APA Style)

Benco Dental. (2020). Applying design standards from hospitals to dental practices for infection control. https://www.benco.com/wp-content/uploads/2020/09/Applying-Design-Standards-from-Hospitals-to-Dental-Practices-for-Infection-Control.pdf

CFM (VA). (2022). Dental Service Design Guide. https://www.cfm.va.gov/til/dGuide/dgDental.pdf

International Health Facility Guidelines. (2024). 65 Dental Surgery Unit. https://www.healthfacilityguidelines.com/ViewPDF/ViewIndexPDF/iHFG_part_b_dental_surgery_unit

XO CARE. (2023). Dental Clinic Design Guide. https://xo-care.com/dental-clinic-design-guide/

Whole Building Design Guide. (2013). Chapter 320: Dental Clinic. https://www.wbdg.org/FFC/DOD/MHSSC/ARCHIVES/spaceplanning_healthfac_320_2013.pdf

UNDP. (2022). UNIVERSAL DESIGN – Healthcare Manual. https://www.undp.org/sites/g/files/zskgke326/files/migration/ua/Manual_UD-in-Healthcare_eng.pdf

Health Facility Guidelines India. (2024). Dental Health Unit – Guideline Section. https://india.healthfacilityguidelines.com/Guidelines/ViewPDF/HFG-India/part_b_dental_health_unit