การออกแบบแผนกจักษุ (Eye Department)

หลักการออกแบบแผนกจักษุ (Eye Department) ในโรงพยาบาล

แผนกจักษุถือเป็นพื้นที่เฉพาะที่ต้องการการออกแบบที่สอดคล้องกับลักษณะการให้บริการ ตรวจ วินิจฉัย และรักษาโรคที่เกี่ยวกับดวงตา ซึ่งต้องคำนึงถึงทั้งความแม่นยำทางการแพทย์ ความสะดวกสบายของผู้ป่วย และความปลอดภัยในทุกขั้นตอน


1. การจัดผังและการไหลเวียนของผู้ป่วย (Patient Flow and Zoning)

แผนกจักษุที่ดีควรมีการไหลเวียนของผู้ป่วยที่ชัดเจน ตั้งแต่การลงทะเบียน → รอคิว → ตรวจวัดสายตา → วินิจฉัย → ให้คำปรึกษา → รับการรักษา → บริการแว่นตา → ออกจากพื้นที่ (Simour Design, 2023; Mivision, 2023)

พื้นที่แผนกควรแบ่งโซนอย่างชัดเจน เช่น

  • โถงต้อนรับ
  • ห้องตรวจและวินิจฉัย
  • ห้องตรวจพิเศษ เช่น การวัดความดันลูกตา, ถ่ายภาพจอประสาทตา
  • ห้องผ่าตัดจักษุ (ถ้ามี)
  • พื้นที่บริการแว่นตาและเลนส์
  • พื้นที่พักฟื้นหรือสังเกตอาการหลังผ่าตัด

2. ห้องเฉพาะและอุปกรณ์เฉพาะทาง

  • ห้องตรวจจักษุ: ขนาดประมาณ 11–15 ตารางเมตร ต้องมีระยะการมองอย่างเหมาะสมและรองรับอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น Slit Lamp, Auto Refractor, และเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา (Simour Design, 2023; AAO, 2017)
  • ห้องวินิจฉัยพิเศษ: สำหรับการตรวจ glaucoma, OCT, และการวัดสายตาแบบ 3 มิติ ต้องมีการควบคุมแสงและอุณหภูมิ
  • ห้องผ่าตัดตา (Eye OR): หากมีบริการผ่าตัด ควรมีห้องผ่าตัดเฉพาะทาง ห้องเตรียมก่อน-หลังผ่าตัด และระบบฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน (Mivision, 2023)
  • พื้นที่บริการแว่นตา: จัดวางเป็นโซนจำหน่ายและติดตั้งกรอบแว่นพร้อมพื้นที่จัดเก็บอย่างมีระบบ (BuildXSDC, 2023)

3. การควบคุมแสงและสภาพแวดล้อม

  • หลีกเลี่ยงแสงจ้าในพื้นที่รอและห้องตรวจ ใช้ระบบไฟแบบปรับความเข้มได้ (Dimmable)
  • เลือกใช้โทนสีที่นุ่มนวลเพื่อไม่กระตุ้นสายตา เช่น สีฟ้าอ่อน เทาอ่อน หรือเขียวพาสเทล
  • หากเป็นไปได้ ควรเปิดรับแสงธรรมชาติและจัดพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างความผ่อนคลาย (Optometric Architects, 2023)

4. การควบคุมการติดเชื้อและความปลอดภัย

  • แยกทางเดินสะอาดและปนเปื้อน โดยเฉพาะพื้นที่ผ่าตัด
  • พื้น ผนัง และเฟอร์นิเจอร์ควรใช้วัสดุผิวเรียบ ไม่มีรอยต่อ ทำความสะอาดง่าย
  • จัดให้มีอ่างล้างมือและเจลแอลกอฮอล์ในจุดสำคัญ (Mivision, 2023)

5. ความสะดวกในการเข้าถึง (Accessibility)

  • ทางเดินกว้างอย่างน้อย 1.2 เมตร
  • มีลิฟต์/ทางลาดสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ
  • ห้องน้ำผู้พิการและป้ายสัญลักษณ์ที่ชัดเจน อ่านง่าย
  • ใช้สัญลักษณ์หรือแถบพื้นผิวแบบสัมผัสสำหรับผู้มีสายตาเลือนราง (BuildXSDC, 2023)

6. ความยืดหยุ่นของพื้นที่

  • ออกแบบห้องแบบโมดูลาร์ รองรับอุปกรณ์ใหม่ในอนาคต
  • วางระบบสายไฟ/ท่อในผนังหรือฝ้าเพดานเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยน (Simour Design, 2023)

ตารางสรุป

พื้นที่/องค์ประกอบลักษณะเด่น
ผังการให้บริการลำดับชัดเจน ตั้งแต่ลงทะเบียน → ตรวจ → รักษา → ออก
ห้องตรวจจักษุขนาด 11–15 ตร.ม., รองรับอุปกรณ์, เป็นส่วนตัว
ห้องวินิจฉัยพิเศษOCT, glaucoma, Imaging ห้องแสงน้อย
ห้องผ่าตัด (ถ้ามี)มาตรฐาน OR, ระบบฆ่าเชื้อ, ห้องเตรียมก่อน/หลังผ่าตัด
บริการแว่นตาพื้นที่แสดงและปรับแว่น พร้อมคลังจัดเก็บเลนส์
แสงและบรรยากาศแสงปรับได้, โทนสีอ่อน, บรรยากาศผ่อนคลาย
การควบคุมการติดเชื้อผิวเรียบ, ล้างมือสะดวก, ระบบแยกทางเดิน
การเข้าถึงไม่มีขั้นบันได, ทางลาด, ห้องน้ำผู้พิการ, ป้ายทางเดิน
ความยืดหยุ่นโมดูลาร์, ระบบพร้อมปรับเปลี่ยนสำหรับอนาคต

อ้างอิง (APA Style)

Simour Design. (2023). Design considerations for ophthalmology clinics. Retrieved from https://simourdesign.com/design-considerations-ophthalmology-clinics/

Mivision. (2023). Designing a private ophthalmology day surgery. Retrieved from https://mivision.com.au/2023/10/designing-a-private-ophthalmology-day-surgery/

BuildXSDC. (2023). Building an eye hospital: A comprehensive guide for aspiring healthcare planners. Retrieved from https://www.builtxsdc.com/blog/building-an-eye-hospital-a-comprehensive-guide-for-aspiring-healtcare-planners

Optometric Architects. (2023). Introducing modern design ophthalmology. Retrieved from https://www.optometricarchitects.com/blog/post/introducing-modern-design-ophthalmology

American Academy of Ophthalmology. (2017). The successful ophthalmic ASC: Designing and building. Retrieved from https://www.aao.org/assets/c251bb20-f6a7-4e8a-b0e3-0187acce1478/636065121840470000/the-successful-ophthalmic-asc-designing-and-building-pdf