แนวทางการออกแบบระบบประปาในโรงพยาบาล (Plumbing System for Hospital Design)
การออกแบบระบบประปาในโรงพยาบาลเป็นภารกิจที่ซับซ้อนและต้องมีความแม่นยำสูง เนื่องจากระบบนี้ไม่เพียงส่งผลต่อสุขอนามัย ความปลอดภัย และความสะดวกสบายของผู้ป่วยและบุคลากรเท่านั้น แต่ยังต้องรองรับการทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีข้อผิดพลาดแม้ในภาวะฉุกเฉิน
1. ระบบสำรองและความต่อเนื่อง (Redundancy and Reliability)
- โรงพยาบาลต้องมีแหล่งจ่ายน้ำสำรอง เช่น แทงก์น้ำสองชุด หรือท่อเมนจากคนละทิศทาง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะไม่หยุดทำงานแม้ในกรณีซ่อมบำรุงหรือขัดข้อง (Express Water Solutions, 2023)
- บริเวณวิกฤต เช่น ห้องผ่าตัด เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ และระบบทำความเย็น ควรมีปั๊มน้ำและระบบไฟฟ้าสำรองแยกเฉพาะ (Peter Basso Associates, 2021)
2. การควบคุมการติดเชื้อและคุณภาพน้ำ (Infection Control and Water Quality)
- ต้องติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการไหลย้อน (backflow preventers) และวาล์วแบบ double-check ในระบบจ่ายน้ำ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากของเสียกลับเข้าสู่ระบบ (DHA, 2022)
- อุณหภูมิของน้ำร้อนควรควบคุมให้อยู่ที่ 54–60°C เพื่อลดความเสี่ยงของเชื้อ Legionella โดยมีการล้างระบบด้วยน้ำร้อนเป็นระยะ (CED Engineering, 2021)
3. ความสะดวกในการเข้าถึงและซ่อมบำรุง (Accessibility and Maintainability)
- วาล์ว ปั๊ม และมิเตอร์ควรอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายเพื่อการบำรุงรักษา ลดผลกระทบต่อการให้บริการผู้ป่วย (HFMM, 2019)
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งอุปกรณ์สำคัญไว้ในพื้นที่แคบหรือเข้าถึงยาก เช่น ใต้พื้นหรือเพดานโดยไม่มีช่องซ่อมบำรุง
4. ความยืดหยุ่นและการขยายตัวในอนาคต (Scalability and Flexibility)
- ระบบควรออกแบบให้สามารถรองรับการขยายตัวของอาคารหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ในอนาคตได้ เช่น การเพิ่มจุดจ่ายน้ำหรือระบบฆ่าเชื้อใหม่ (Express Water Solutions, 2023)
5. ระบบเฉพาะทางที่เกี่ยวข้อง (Specialized Systems)
- ระบบก๊าซทางการแพทย์ (Medical Gas System): ท่อสำหรับออกซิเจน ไนตรัสออกไซด์ และสูญญากาศ ต้องใช้วัสดุเฉพาะที่ทนต่อการกัดกร่อน พร้อมระบบตรวจสอบความดันและความปลอดภัย (UCLA Extension, 2022)
- การควบคุมอุณหภูมิ: น้ำร้อน/น้ำเย็นต้องจ่ายเสถียร ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ เพื่อรองรับการทำความสะอาดและรักษาความปลอดภัยให้ผู้ป่วย
6. การประหยัดพลังงานและทรัพยากร (Energy and Water Efficiency)
- ใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ เช่น ก๊อกน้ำแบบ sensor และสุขภัณฑ์แบบ dual flush รวมถึงปั๊มน้ำประสิทธิภาพสูงเพื่อลดต้นทุนและรักษาสิ่งแวดล้อม
7. มาตรฐานและข้อกำหนด (Compliance)
- ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น กฎหมายควบคุมอาคาร ระบบน้ำเสีย ระบบฆ่าเชื้อ และมาตรฐานของระบบก๊าซทางการแพทย์ (Peter Basso Associates, 2021; DHA, 2022)
สรุป:
ระบบประปาในโรงพยาบาลต้องออกแบบโดยให้ความสำคัญต่อความต่อเนื่อง ความปลอดภัย การควบคุมการติดเชื้อ และความสามารถในการปรับตัวในอนาคต ระบบที่ดีจะช่วยสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว
รายการอ้างอิง (APA Style):
CED Engineering. (2021). An introduction to hospital domestic water systems. Retrieved from https://www.cedengineering.com
DHA. (2022). Water systems design (WS). Dubai Health Authority. Retrieved from https://services.dha.gov.ae/tahpi-app
Express Water Solutions. (2023). Plumbing design for healthcare facilities. Retrieved from https://www.expresswatersolutions.com
HFMM. (2019). Hospital plumbing systems. Health Facilities Management Magazine. Retrieved from https://www.hfmmagazine.com
Peter Basso Associates. (2021). Plumbing design for healthcare. Retrieved from http://web.peterbassoassociates.com
UCLA Extension. (2022). Hospital and laboratory plumbing systems design. Retrieved from https://www.uclaextension.edu
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น